วิชา EAED 2209 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
เวลา 11.30-14.00 น.
ครั้งที่ 2
1. เด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา (Children with intellectual Disabilities)
หมายถึงเด็กที่มีระดับสติปัญญาหรือเชาว์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเมื่อเทียบเด็กในระดับอายุเดียวกันมี 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
1.1 เด็กเรียนช้า
-เรียนได้ปกติ
-ขาดทักษะในการเรียนรู้
-เรียนรู้ช้ากว่าเด็กปกติ
-บกพร่องทางสติปัญญาเล็กน้อย
-IQ ประมาณ 71-90
1.2 เด็กปัญญาอ่อน
-มีภาวะพัฒนาการหยุดชะงัก
-ระดับสติปัญญาต่ำ
-ความสามารถในการเรียนรู้น้อย
-มีความจำกัดทางด้านทักษะ
-พัฒนาการทางกายช้าไม่สมดุลกับวัย
-มีความสามารถจำกัดในการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อม
เด็กปัญญาอ่อนแบ่งได้ 4 กลุ่ม คือ
1.เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนักมาก IQ ต่ำกว่า 20
- ไม่สามารถเรียนทักษะด้านต่างๆได้เลย ต้องการดูแลเฉพาะ
2. เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนัก IQ ต่ำกว่า 20-34
- เรียนไม่ได้ ต้องการการฝึกหัดการช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน
2 กลุ่มนี้เรียกว่า C.M.R (Costodial Mental Retatardation)
3. เด็กปัญญาอ่อนปานกลาง IQ 35-49
- พอฝึกทักษะเบื้องต้นง่ายๆได้ สามารถฝึกวิชาชีพทำงานง่ายๆไม่ต้องละเอียดละออ เรียกว่า T.M.R
4. เด็กปัญญาอ่อนขนาดน้อย IQ 50-70
- เรียนในระดับประถมได้ ฝึกงานวิชาชีพง่ายๆได้ เรียกว่า E.M.R
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา
- เด็กที่มองไม่เห็นหรือพอเห็นแสงเห็นเลืองราง
- มีความบกพร่องทางสายตา 2 ข้าง
- มีลานสายตากว้างไม่เกิน 30 อาศา
จำแนกได้ 2 ประเภท คือ
3.1 เด็กตาบอด
3.2เด็กตาบอดไม่สนิท
1. เด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา (Children with intellectual Disabilities)
หมายถึงเด็กที่มีระดับสติปัญญาหรือเชาว์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเมื่อเทียบเด็กในระดับอายุเดียวกันมี 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
1.1 เด็กเรียนช้า
-เรียนได้ปกติ
-ขาดทักษะในการเรียนรู้
-เรียนรู้ช้ากว่าเด็กปกติ
-บกพร่องทางสติปัญญาเล็กน้อย
-IQ ประมาณ 71-90
1.2 เด็กปัญญาอ่อน
-มีภาวะพัฒนาการหยุดชะงัก
-ระดับสติปัญญาต่ำ
-ความสามารถในการเรียนรู้น้อย
-มีความจำกัดทางด้านทักษะ
-พัฒนาการทางกายช้าไม่สมดุลกับวัย
-มีความสามารถจำกัดในการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อม
เด็กปัญญาอ่อนแบ่งได้ 4 กลุ่ม คือ
1.เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนักมาก IQ ต่ำกว่า 20
- ไม่สามารถเรียนทักษะด้านต่างๆได้เลย ต้องการดูแลเฉพาะ
2. เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนัก IQ ต่ำกว่า 20-34
- เรียนไม่ได้ ต้องการการฝึกหัดการช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน
2 กลุ่มนี้เรียกว่า C.M.R (Costodial Mental Retatardation)
3. เด็กปัญญาอ่อนปานกลาง IQ 35-49
- พอฝึกทักษะเบื้องต้นง่ายๆได้ สามารถฝึกวิชาชีพทำงานง่ายๆไม่ต้องละเอียดละออ เรียกว่า T.M.R
4. เด็กปัญญาอ่อนขนาดน้อย IQ 50-70
- เรียนในระดับประถมได้ ฝึกงานวิชาชีพง่ายๆได้ เรียกว่า E.M.R
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา
- ไม่พูด พูดไม่สมตามวัย
- ความสนใจสั้น วอกแวก
- ความคิด อารมณ์ เปลี่ยนแปลงง่าย รอไม่ค่อยได้
- ทำงานช้า
- รุนแรงไม่มีเหตุผล
- อวัยวะบางส่วนผิดรูปร่าง
- ช่วยตนเองได้น้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
2. เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน (Children with hearing impaired)
หมายถึง สูญเสียการได้ยินเป็นเหตุให้การรับฟังเสียงต่างๆได้ไม่ชัดมี 2 ประเภท คือ
1.1 เด็กหูตึง
เด็กที่สูญเสียการได้ยินแต่สามารถรับรู้ข้อมูลได้โดยใช้เครื่องช่วยฟัง จำแนกกลุ่มย่อยได้ 4 กลุ่ม ดังนี้ 1.1.1 หูตึงระดับน้อย 26-40 dB
- มีปัญหาในการรับฟังเสียงเบาๆเสียงกระซิบหรือเสียงจากที่ไกลๆ
1.1.2 หูตึงระดับปานกลาง 41-55 dB
- เด็กมีปัญหาการฟังเสียงพูดคุยที่ดังในระดับปกติในระยะห่าง 3-5 ฟุต และไม่เห็นหน้าผู้พูด - ได้ยินไม่ชัด จับใจความไม่ได้
- พูดเล็กน้อย พูดไม่ชัด เสียงเพี้ยน
1.1.3 หูตึงมาก 56-70 dB
- มีปัญหาในการรับฟังและเข้าใจคำพูด
- คุยกันเสียงดังเต็มที่ยังไม่ได้ยิน
- มีการฟังเสียงหลายเสียงพร้อมกันไม่ได้
- มีทักษะทางภาษาช้า
- พูดไม่ชัด พูดเพี้ยน บางคนไม่พูด
1.1.4 หูตึงรุนแรง 71-90 dB
- เด็กมีปัญหาในการฟังเสียงและการเข้าใจคำพูดมาก
- ได้ยินเฉพาะเสียงที่ดังใกล้หูในระยะ 1 ฟุต
- การได้ยินโดยต้องตะโกนหรือเครื่องขยายเสียง
- เด็กมีปัญหาในการแยกเสียง
- เด็กมักพูดไม่ชัดและมีเสียงผิดปกติ บางคนไม่พูด
1.2 เด็กหูหนวก
- เด็กที่สูญเสียการได้ยินมากถึงขนาดที่กำหนดโอกาสที่จะเข้าใจภาษาพูดจากการได้ยิน
- เครื่องช่วยฟังไม่สามารถช่วยได้
- ไม่สามารถหรือเข้าใจภาษาพูดได้
- ระดับการได้ยินตั้งแต่ 91 dB ขึ้นไป
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
- ไม่ตอบสนองต่อเสียงพูด
- ไม่พูด มักแสดงท่าทาง
- พูดด้วยเสียงแปลก มักเปร่งเสียงสูง
- พูดด้วยเสียงต่ำหรือพูดด้วยเสียงที่ดังเกินจำเป็น
- เวลาฟังมักจะมองปากของผู้พูดหรือจ้องหน้าผู้พูด
- รู้สึกไวต่อการสั่นสะเทือนและการเคลื่อนไหวรอบตัว
- มักทำหน้าเด๋อเมื่อมีการพูดด้วย
3. เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน (Children with Visual impairments )
- เด็กที่มองไม่เห็นหรือพอเห็นแสงเห็นเลืองราง
- มีความบกพร่องทางสายตา 2 ข้าง
- มีลานสายตากว้างไม่เกิน 30 อาศา
จำแนกได้ 2 ประเภท คือ
3.1 เด็กตาบอด
3.2เด็กตาบอดไม่สนิท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น