วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

3 มกราคม 2557


วิชา EAED 2209 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

เวลา 11.30-14.00 น

ครั้งที่ 9 


ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากเป็นวันหยุดชดเชยวันปีใหม่







27 ธันวาคม 2556


วิชา EAED 2209 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

เวลา 11.30-14.00 น

ครั้งที่ 8



ไม่มีการเรียนการสอน เพราะเป็นช่วงวันหยุดสิ้นปีและเป็นช่วงหลังสอบกลางภาค 



20 ธันวาคม 2556


วิชา EAED 2209 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

เวลา 11.30-14.00 น

ครั้งที่ 7


ไม่มีการเรียนการสอนเพราะเป็นช่วงระหว่างการสอบกลางภาค






วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556

13 ธันวาคม 2556


วิชา EAED 2209 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

เวลา 11.30-14.00 น

ครั้งที่ 6

           - อาจารย์ให้เพื่อนแต่ละกลุ่มนำเสนองาน

      
สมาชิกกลุ่ม
หัวข้อนำเสนอ
             1.    น.ส จินตนา     น.ส ณัฐวดี       น.ส นพมาศ
เด็กออทิสติก
             2.    น.ส กรรจิรา     น.ส บงกช       น.ส พัชรี
เด็กดาวน์ซินโดรม
             3.    น.ส นฤมล       น.ส เณฐิดา       น.ส ชิดชนก
เด็กสมองพิการ (เด็กซีพี)
            4.    น.ส สุภาภรณ์  น.ส รัตติการ     น.ส นิตยา                              น.ส ประทานพร 
เด็กสมาธิสั้น
5.  น.ส อลิสา         น.ส กรกนก    น.ส รสิตา   
     น.ส ชุติภา
เด็กแอลดี
             6.    น.ส อรอุมา     น.ส วศินี
เด็กปัญญาเลิศหรือ IQ สูง





6 ธันวาคม 2556


วิชา EAED 2209 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

เวลา 11.30-14.00 น

ครั้งที่ 5

- ขาดเรียนแต่ได้ดูของ น.ส อริสา มานะ

         
พัฒนาการ คือ

  •  การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆ
  •  สามรถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น


เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

  • มีพัฒนาการล่าช้ากว่าปกติในวัยเดียวกัน
  • พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านในด้านหนึ่งหรือหลายด้าน
  • พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าไปด้วย
ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการ
  • ปัจจัยที่มีผลต่อชีวภาพ เช่น พันธุกรรม
  • ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมก่อนคลอด
  • ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด
  • ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมหลังคลอด




แนวทางการวินิจฉัย เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ

1.ซักประวัติ

  • โรคประจำตัว
  • การเจ็บป่วยในครอบครัว
  • ประวัติการฝากครรภ์
  • ประวัติเกี่ยวกับการคลอด
  • พัฒนาการที่ผ่านมา
  • การเล่นตามวัย การช่วยเหลือตนเอง
  • ปัญหาพฤติกรรม
  • ประวัติอื่นๆ
เมื่อซักประวัติแล้วสามารถบอกได้ว่า
  • พัฒนาการล่าช้าเป็นไปแบบคงที่และถดถอย
  • เด็กมีพัฒนาการล่าช้าหรือไม่ อย่างไร อยู่ในระดับไหน
  • มีข้อบ่งชี้ว่ามีสาเหตุจากโรคทางพันธุกรรมหรือไม่
  • สาเหตุความบกพร่องทางพัฒนาการนั้นเกิดจากอะไร
  • ขณะนี้เด็กได้รับการช่วยเหลือฟื้นฟูอย่างไร
2.การตรวจร่างกาย
  • ตรวจร่างกายทั่วไปและการเจริญเติบโต
  • ภาวะตับ ม้ามโต
  • ผิวหนัง
  • ระบบประสาทและวัดศรีษะด้วยเสมอ
  • ดูลักษณะของเด็กที่ถูกทารุณกรรม
  • ระบบการมองเห็นและการได้ยิน
3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ
4.การประเมินพัฒนาการ

  • ประเมินแบบไม่เป็นทางการ
การประเมินที่ใช้เวชปฏิบัติ 
  • แบบทดสอบ Denver II
  • Gesell Drawing Test
  • แบบประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุแรกเกิด-5 ปี ของสถาบันราชานุกูล




แนวในทางการดูแลรักษา

  1. หาสาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
  2. การตรวจค้นหาความผิดปกติร่วม
  3. การักษาหาสาเหตุโดยตรง
  4. การส่งเสริมพัฒนาการ
  5. ให้คำปรึกษากับครอบครัว
ขั้นตอนในการดูแลเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
  1. การคัดกรองพัฒนาการ
  2. การประเมินพัฒนาการ
  3. การให้การวินิจฉัยและหาสาเหตุ
  4. การให้การรักษาและส่งเสริมพัฒนาการ
  5. การติดตามและประเมินผลการรักษาเป็นระยะ








วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

29 พฤศจิกายน 2556


วิชา EAED 2209 การอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ

เวลา 11.30-14.00น.

ครั้งที่ 4

6. เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ (Children with Behavoral and Emotional Disorders)

  •  เด็กที่มีการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาพปกตินานๆไม่ได้
  • เด็กที่มีการควบคุมพฤติกรรมบางอย่างของตนเองไม่ได้
  • วิตกกังวน หวาดกลัว
  • หนีสังคม
  • ก้าวร้าว
  • ทำให้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเรียบร้อย แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
          1. เด็กที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางอารมณ์
          2. เด็กที่ปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้


การจะจัดว่าเด็กมีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบดังนี้
  •   สภาพแวดล้อม
  • ความคิดเห็นของแต่ละบุคคล
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเด็ก


  • ไม่สามารถเรียนหนังสือได้เช่นเด็กปกติ
  • รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือครูไม่ได้
  • มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน
  • มีความคับข้องใจและมีความเก็บกดทางอารมณ์
  • แสดงอาการทางร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดตามส่วนต้างๆของร่างกาย
  • มีความหวาดกลัว
เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมซึ่งจัดว่ามีความรุนแรงมาก
  • เด็กสมาธิสั้น (Children with Attention Deficit and Hyperactivity Disorders หรือ ADHD)                                       
              - ซนอยู่ไม่นิ่ง ซนมากกว่าปกติเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
              - เด็กบางคนมีปัญหาเรื่องสมาธิบกพร่อง อาการหุนหันพลันแล่น ขาดความยับยั้งช่างใจ เด็กเหล่านี้ทางการแพทย์จะเรียกว่า (Attention Deficit Disorders หรือ ADD) 

ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ 
-อุจจาระ ปัสสาวะรดเสื้อผ้าหรือที่นอน
-ติดขวดนมหรือตุ๊กตาและของใช้ในวัยทารก
-ดูดนิ้ว กัดเล็บ
-เรียกร้องความสนใจ
-ฝันกลางวัน
-พูดเพ้อเจ้อ
-ขี้อิจฉา ริษยา ก้าวร้าว
          
    






9. เด็กพิการซ้อน (Children with Multiple Handicaps)
     - เด็กที่มีความบกพร่องที่มากกว่า 1 อย่าง เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้มาก
     -  เด็กปัญญาอ่อน สูญเสียการได้ยิน
     - เด็กปัญญาอ่อนที่ตาบอด
     - เด็กที่ทั้งหูหนวกและตาบอด


- อาจารย์ให้ดู VDO เรื่อง " ผลิบานผ่านมือครู ตอน ห้องเรียนแรกของเด็กพิเศษ"
   และให้ทำ Mind mapping